ศาสตร์แห่งกลิ่น เลือกใช้น้ำหอมอย่างไรให้เหมาะกับตัวเอง?
Admin Akumu | วันอังคารที่ 14 พฤษภาคม 2019 เวลา 6:34
0 |
สำหรับใครที่ชื่นชอบศาสตร์แห่งกลิ่นหอม, น้ำหอมชนิดต่างๆ วันนี้เรานำเกร็ดความรู้เล็กๆ
ของน้ำหอมมาให้อ่านกันค่ะ และยังมีทริคการเลือกใช้น้ำหอมให้เหมาะกับตัวเองด้วย
ในขั้นตอนแรก เรามาทำความเข้าใจในเรื่องระดับของน้ำหอมกันก่อนเลยค่ะ
ซึ่งน้ำหอมจะแบ่งเป็น 5 ระดับด้วยกัน แบ่งตามความเข้มข้นของน้ำหอมนั่นเอง
1. Parfum (หรือ Perfume)
ระดับความเข้มข้นของน้ำหอม 15-40%
ระดับนี้จะเป็นระดับที่กลิ่นติดทนที่สุด กลิ่นจะอยู่ได้ 24 ชั่วโมงเลยค่ะ ก็คือฉีดแค่ครั้งเดียวอยู่ได้ทั้งวันแน่นอน
แต่น้ำหอมระดับ Perfume จะค่อนข้างมีราคาสูงพอสมควรเลยค่ะ เพราะเค้าเป็นหัวน้ำหอม
จะเน้นใช้แตะตามจุดชีพจรของร่างกาย เช่น หลังหู คอ ข้อมือ เป็นต้น
2. Eau de Parfum
ระดับความเข้มข้นของน้ำหอม 15-20%
เป็นระดับของน้ำหอมที่เป็นที่นิยมที่สุด เพราะราคาไม่แพงมาก และติดทนในระดับที่ดีเลยค่ะ
ถึงแม้จะไม่ได้ทนเท่าตัว Perfume แต่ระดับนี้ฉีดครั้งนึงกลิ่นอยู่ได้นาน 5-8 ชั่วโมงเลย
และยังเหมาะกับใช้ฉีดตามจุดชีพจรเช่นเคย แต่ตัวนี้สามารถฉีดใส่เสื้อผ้า หรือผมได้ด้วยนะคะ
3. Eau de Toilette
ระดับความเข้มข้นของน้ำหอม 5-15%
ระดับน้ำหอมตัวนี้ ก็ยังถือว่าเป็นที่นิยมเช่นกันค่ะ เพราะราคาค่อนข้างถูก มีให้เลือกหลากหลาย
กลิ่นของน้ำหอมจะอยู่ไม่นานมากเท่าไร ประมาณ 3 ชั่วโมงหลังจากฉีด เหมาะกับฉีดไปทำกิจกรรมสั้นๆ
และเป็นระดับน้ำหอมที่เหมาะกับหน้าร้อนที่สุดด้วยค่ะ
4. Eau de Cologne
ระดับความเข้มข้นของน้ำหอม 2-4%
เป็นน้ำหอมที่เก่าแก่ที่สุด มีตั้งแต่ในยุคสมัยนโปเลียนเลยค่ะ ซึ่งเป็นที่นิยมในหมู่ผู้ชายมากๆ
น้ำหอมระดับนี้จะให้กลิ่นที่บางเบา และสดชื่น กลิ่นอยู่ได้ประมาณ 2 ชั่วโมง
สามารถใช้ฉีดเติมไปบนผิวตรงๆได้ตลอดวันค่ะ
5. Eau Fraiche
ระดับความเข้มข้นของน้ำหอม 1-3%
เป็นระดับน้ำหอมที่เจือจางที่สุด กลิ่นทนประมาณ 1 ชั่วโมง
น้ำหอมระดับนี้จึงไม่ค่อยเป็นที่นิยมมากเท่าไรค่ะ
และนอกจากระดับความเข้มข้นของน้ำหอมจะมีผลต่อกลิ่นแล้ว เราก็ยังมีสิ่งที่เรียกว่า
ช่วงของกลิ่น หรือ Notes นั่นเอง Notes จะมีทั้งหมด 3 ระยะค่ะ เราไปดูกันดีว่าว่าเค้าแบ่งกันยังไง
"Perfume Pyramid"
แบ่งออกได้ 3 ระยะ คือ
ระยะที่ 1 : Top Note เป็นกลิ่นแรกที่เราจะได้กลิ่นจากการฉีดน้ำหอม กลิ่นนี้จะอยู่ประมาณ 15 นาที
แรกเท่านั้น หลังจากนั้นก็จะจางลงเรื่อยๆจนเป็นกลิ่นของ Notes ถัดไป ดังนั้นสำหรับคนที่จะลองน้ำหอมก่อนซื้อ
เราแนะนำให้ทดลองฉีดและรอประมาณ 15 นาทีก่อน ถึงจะตัดสิใจซื้อค่ะ เพราะกลิ่นแรกที่เราได้กลิ่นจะอยู่แค่แปปเดียว
ระยะที่ 2 : Meddle Notes กลิ่นนี้คือกลิ่นหลักของน้ำหอมที่เราฉีดหลังจากผ่านไปประมาณ 15-20 นาทีแล้ว
กลิ่นนี้จะค่อยๆชัดขึ้น และอยู่ได้นานถึง 3-6 ชั่วโมงเลยทีเดียว เรียกได้ว่าช่วงนี้จะเผยกลิ่นที่
เป็นเอกลักษณ์ของน้ำหอมตัวที่เราใช้อยู่ออกมาเลย ควรตัดสินใจซื้อตอนที่เป็นกลิ่นนี้แล้วนะคะ
ระยะที่ 3 : Base Notes กลิ่นนี้เป็นกลิ่นสุดท้ายของน้ำหอมที่เราใช้ จริงๆกลิ่นนี้เค้าจะปะปนกับกลิ่น
ในช่วง Meddle Notes อยู่แล้วค่ะ แต่เค้าจะเป็นกลิ่นจางๆ และอยู่กับเราถึง 24 ชั่วโมงเลย
และมาถึงเกร็ดความรู้สุดท้ายแล้ว นั่นก็คือประเภทของกลิ่นน้ำหอมค่ะ
ประเภทของกลิ่นน้ำหอม สามารถจำแนกได้เป็น 8 ประเภท ดังนี้
1.น้ำหอมกลิ่น Floral
เป็นน้ำหอมประเภทที่มีส่วนผสมของพืชที่เป็นดอกไม้ กลิ่นดอกไม้ที่เป็นที่นิยม เช่น
ดอกกุหลาบ ดอกมะลิ ดอกคาเนชั่น เป็นต้น น้ำหอมกลิ่น Floral จะให้ความรู้สึก
ถึงความโรแมนติก ความมีเสน่ห์ หอมหวาน เป็นกลิ่นที่นิยมมากในหมู่ผู้หญิงเลยค่ะ
2.น้ำหอมกลิ่น Citrus
จะมีส่วนผสมของกลิ่นจากพืชตะกูลส้ม ให้ความรู้สึกสดใส สดชื่น และยังคงมีกลิ่นแอบหวานเล็กๆ
กลิ่นนี้เหมาะสำหรับคนที่มีบุคลิก สดใส ร่าเริง มีชีวิตชีวา น้ำหอมกลิ่นนี้เหมาะกับใช้ในหน้าร้อนที่สุด
เพราะเป็นกลิ่นอ่อนๆที่ให้ความรู้สึกสดชื่นนั่นเองค่ะ
3.น้ำหอมกลิ่น Woody
น้ำหอมกลิ่น W๐๐dy หรือ ไซปรัส (Chypre) จะมีส่วนผสมมาจาก เนื้อไม้ และพืชจำพวกมอส
กลิ่นนี้จะให้ความรู้สึกผ่อนคลาย เป็นกลิ่นของดิน ของป่าหลังจากฝนตก
กลิ่นนี้เหมาะกับบุคลิกคนที่มีความสุขุม จิตใจเด็ดเดี่ยว และหนักแน่น
4.น้ำหอมกลิ่น Oriental
เป็นกลิ่นที่ผสมระหว่าง musky fragrances และ earthy fragrances
เข้าด้วยกันอย่างลงตัว ให้กลิ่นแบบหวานอมขมเล็กน้อย เป็นกลิ่นที่ให้ความรู้สึกโรแมนติก
เหมาะสำหรับฉีดไปออกเดทยามค่ำคืนมากๆเลยค่ะ
5.น้ำหอมกลิ่น Spicy
ส่วนมากในน้ำหอมกลิ่นนี้ จะมีส่วนผสมของ อบเชย (Cinnamon), ขิง, พริกไทย และกานพลู เป็นต้น
แต่ไม่ต้องตกใจว่ากลิ่นเหล่านี้จะใหความรู้สึกแบบฉุดแสบจมูกนะคะ เพราะเมื่อเค้านำมาทำเป็น
น้ำหอม กลิ่นนี้จะให้ความรู้สึก น่าดึงดูด หรูหรา เหมาะกับการใช้ในเวลาสบายๆมากๆเลยค่ะ
6.น้ำหอมกลิ่น Oceanic
เป็นน้ำหอมที่กลิ่นสดชื่น กลิ่นเหมือนท้องทะเล และภูเขา เป็นกลิ่นแบบสะอาดๆ
เหมาะสำหรับฉีดเพื่อออกงานที่เป็นทางการต่างๆค่ะ
7.น้ำหอมกลิ่น Green
กลิ่นจะคล้ายๆต้นหญ้าที่พึ่งโดนตัดใหม่ๆ กลิ่นสดชื่น สะอาด และเบาสบาย
เป็นกลิ่นที่เหมาะกับลุคสปอร์ตๆ ใช้ได้ทุกเพศ เหมาะกับวันสบายๆ
8.น้ำหอมกลิ่น Fruity
เป็นน้ำหอมที่หอมกลิ่นของผลไม้ เป็นกลิ่นที่ค่อนข้างเป็นที่นิยมในหมู่สาวๆ
เพราะกลิ่นจะออกหอมหวาน ซ่อนเปรี้ยว ให้ลุคสนุกสนาน และแอบหวานเล็กๆค่ะ
กลิ่นผลไม้ที่นิยมนำมาใช้ในน้ำหอม คือ แอปเปิ้ล สตอร์เบอร์รี่ พีช เป็นต้น
เป็นอย่างไรกันกันบ้างคะทุกคน สำหรับเกร็ดความรู้ในเรื่องของน้ำหอมเล็กๆน้อยๆที่เรานำมาฝากกัน
หวังว่าจะเป็นประโยชน์ให้หลายๆคนนะคะ ^^ วันนี้เราต้องขอตัวไปก่อน รับรองว่ากระทู้หน้า เราจะมี
เกร็ดความรู้ หรือแม้แต่รีวิวเล็กๆมาฝากทุกคนอีกแน่นอนค่ะ บ๊ายบาย xoxo