ไขข้อข้องใจ AHA/BHA แตกต่างกันอย่างไร?
Admin Akumu | วันพฤหัสบดีที่ 3 กันยายน 2020 เวลา 2:20
0 |
กลับมาเจอกับแอดมิน Akumu คนเดิม วันนี้มาพร้อมกับเกร็ดความรู้เล็ก ๆ อีกครั้งค่ะ ^^
ทุกคนเคยสงสัยกันไหมคะ เวลาเราจะซื้อสกินแคร์สักชิ้น แล้วได้ยินกันว่าตัวนี้มีส่วนผสมของ AHA นะ ตัวนี้มีส่วนผสมของ BHA นะ แล้วเจ้า AHA/BHA มันคืออะไร? แตกต่างกันอย่างไร? ส่วนตัวแอดมินเองก็เคยสงสัยเรื่องนี้เหมือนกันค่ะ เลยพยายามไปหาข้อมูลมา และมาสรุปบอกต่อให้ทุกคนอ่าน ถ้าอยากรู้ว่าส่วนผสมในสกินแคร์อย่าง AHA/BHA เค้าคืออะไร และแตกต่างกันอย่างไร ตามแอดมินมาเลยค่าาา
AHA คืออะไร ?
AHA คืออะไร ?
AHA หรือชื่อเต็มคือ Alpha Hydroxy Acid
เป็นสารประกอบที่มีฤทธิ์เป็นกรด ซึ่งกรดตัวนี้จะถูกสกัดมาจากผลไม้
เช่น กรดซิตริกจากมะนาว, ส้ม กรดมัลลิกจากแอปเปิ้ล ทั้งยังมาจาก
น้ำตาล, นม, ถั่ว ซึ่งเราสามารถพบเห็นส่วนผสม AHA ได้ในผลิตภัณฑ์
สกินแคร์ และเครื่องสำอางทั่วไปเลยค่ะ
AHA ช่วยในเรื่องอะไร ?
-ให้ความชุ่มชื่นแก่ผิว
-ช่วยขจัดเซลล์ผิวเก่า
-ช่วยให้ผิวกระจ่างใสขึ้น
-ช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนในชั้นผิว ให้ผิวอิ่มฟู
-ลดริ้วรอย และจุดด่างดำ
ข้อควรระวังในการใช้ AHA
เนื่องจากว่า AHA มีสรรพคุณในการช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วของเรา
ดังนั้นอาจจะทำให้หน้าบางขึ้น การใช้สกินแคร์ที่มีส่วนผสมของ AHA ในตอนเช้า
ควรจะทากันแดดเพื่อป้องกันไม่ให้ผิวไหม้ และควรเริ่มใช้จากที่มีเปอร์เซ็นต์น้อยก่อน
เพราะอาจก่อให้เกิดการระคายเคือง ไปจนถึงผิวลอกได้ค่ะ
BHA คืออะไร ?
BHA คืออะไร?
BHA หรือ "Beta Hydroxy Acid"
เป็นกรดที่สกัดมาจากเปลือกไม้ของต้น Willow หรือต้นหลิวจีน
เราจะรู้จักกันดีในตัวของ "กรดซาลิไซลิก Salicylic Acid" ที่ใช้กัน
ทั่วไปในสกินแคร์ และเครื่องสำอางนั่นเอง
BHA ช่วยในเรื่องอะไร?
จะมีบางสรรพคุณของ BHA ที่คล้ายกับ AHA ค่ะ แต่จะมีบางอย่างที่แตกต่างกัน
โดยหน้าที่หลักของ BHA คือ
-ช่วยทำความสะอาดรูขุมขน ช่วยในเรื่องละลายไขมันใต้ผิวหนัง
-ช่วยให้สิวยุบเร็วขึ้น
-ซึมเข้าสู่ผิวหนังได้โดยไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน
และหน้าที่รองของ BHA คือ
-ช่วยขจัดเซลล์ผิวเก่า
-ช่วยให้ผิวกระจ่างใสขึ้น
-ช่วยปลอบประโลมผิวจากการระคายเคือง ลดการอักเสบ อาการแดง
-ลดเรือนริ้วรอย และจุดด่างดำ
ข้อควรระวังในการใช้ BHA
BHA จะมีผลข้างเคียงในการใช้น้อยกว่า AHA ค่ะ ดังนั้นข้อควรระวังเค้าก็แทบจะไม่มีเลย
แต่ยังไงเราก็ต้องทากันแดดทุกครั้งอยู่ดีน้าาาา เพราะผิวที่ถูกทาด้วย BHA เป็นเวลานาน
ก็จะทำให้ไวกับแสง UV เช่นกันกับ AHA ค่ะ เพียงแค่น้อยกว่า
จะเห็นได้เลยว่าทั้ง AHA และ BHA มาจากส่วนผสมที่แตกต่างกัน
แต่มีสรรพคุณบางอย่างที่เหมือนกันเลยค่ะ
และนี่ก็คือข้อสรุป ที่เราได้สรุปมาให้ทุกคนแล้ว
ว่าเจ้า AHA/BHA แตกต่างกันอย่างไร
ใครผิวเป็นแบบไหน ควรจะใช้ส่วนผสมอะไรกันแน่
อย่างที่เราบอกไปว่า AHA แม้จะเหมาะกับคนผิวแห้ง
แต่ก็ทำให้ผิวไวต่อแสงได้มากกว่าตัว BHA นะคะ
ดังนั้นเมื่อใช้สกินแคร์ที่มีส่วนผสมของ AHA/BHA แล้ว
อย่าลืม "ทากันแดด" เด็ดขาดน้าาาาาาา
อันนี้เป็นสกินแคร์ที่มีส่วนผสมของ AHA/BHA ที่เรายกตัวอย่างมาให้ค่ะ
เค้าจะมีเขียนส่วนผสมไว้ที่ผลิตภัณฑ์เลย ส่วนมาก AHA/BHA จะเป็นส่วนผสม
ที่มักใช้ร่วมกัน แต่ก็จะมีบางชิ้นที่เป็น AHA ล้วน หรือ BHA ล้วนนั่นเองค่ะ
ก่อนจะซื้อสกินแคร์ อย่าลืมเช็คส่วนผสมกันดี ๆ นะคะ ว่ามีส่วนผสมที่เหมาะกับ
สภาพผิวหน้าของเราตอนนี้ไหม หรือมีส่วนผสมที่เราแพ้ไหม
หวังว่ากระทู้นี้จะเป็นประโยชน์กับทุกคนน้าาาาาาา ^^
BEAUTRIUM 'WHERE BEAUTY BECOMES MORE'
ความสวยได้มากกว่าที่เคยเจอ ที่ร้านบิวเทรี่ยม ทั้ง 14 สาขา และช่องทางออนไลน์
ผ่านเว็บไซต์ theBEAUTRIUM.com
Line@ ที่ @Beautrium
Inbox FB หรือ Instagram @thebeautrium
การันตีของแท้ 100% ของถูก ครบจบในที่เดียวต้อง BEAUTRIUM