วิตามินในสกินแคร์ มีตัวไหน ใช้อย่างไรบ้างน้าาา ? [Skincare101]

ใครเคยสงสัยบ้างไหมคะ ว่าในสกินแคร์ที่เค้าบอกว่ามีส่วนผสมของวิตามินต่าง ๆ เนี่ย วิตามินแต่ละชนิดเค้าช่วยดูแลผิวเรื่องอะไรกันบ้าง ? ปกติเราก็จะรู้จักวิตามินในอาหารว่าแต่ละชนิดช่วยเรื่องอะไรใช่ไหมล่ะคะ แต่วันนี้เรามาเจอกันในช่วง Skincare 101 : ไขข้อข้องใจ วิตามินในสกินแคร์ช่วยเรื่องอะไร มีชนิดไหนบ้าง และเหมาะกับใครกันน้าาาาา ?

ไขข้อข้องใจ : วิตามินในสกินแคร์ ช่วยเรื่องอะไร ?

Vitamin A (วิตามินเอ : Retinoids)

Vitamin A (วิตามินเอ)

วิตามินเอ หรือที่เราจะเห็นในส่วนผสมสกินแคร์ที่เค้าเรียกกันว่า "Retinol (เรตินอล)" นั่นเองค่ะ ตัวนี้มีคุณสมบัติในการช่วยลดเลือนริ้วรอยเป็นหลัก เค้าจะไปช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ทำให้ผิวแลดูอ่อนเยาว์ขึ้น ช่วยให้รูขุมขนกระชับขึ้น เนื่องจากมีส่วนช่วยในการผลัดเซลล์ผิว ช่วยลดจุดด่างดำ และช่วยในการรักษาสิว ลดการอักเสบของผิว ให้ผิวกระจ่างใสขึ้นด้วยค่ะ

แต่การใช้ Vitamin A หรือ Retinol มีข้อควรระวังอยู่ค่ะ เพราะเค้าอาจจะทำให้ผิวเราไวต่อแดด และบางขึ้น เนื่องจากมีการผลัดเซลล์ผิวเกิดขึ้น ดังนั้นแนะนำให้ใช้ในปริมาณที่น้อย ๆ ก่อนในช่วงแรก เพื่อให้ผิวปรับสภาพ หรือจะใช้แบบวันเว้นวันก็ได้นะคะ หลังจากนั้นค่อยเริ่มใช้ทุกวัน ในปริมาณที่มากขึ้น และอย่าลืมทากันแดดเด็ดขาด! ถ้าไม่อยากให้ผิวเราไหม้!

ส่วนผสมที่ไม่ควรใช้ร่วมกัน : Vitamin C + Retinol

Vitamin B3 (วิตามินบีสาม: Niacinamide)

Vitamin B3 (วิตามินบีสาม)

อีกหนึ่งส่วนผสมยอดฮิตในสกินแคร์ ก็คงหนีไม่พ้นวิตามิน B3 หรือที่เราจะได้ยินว่า Niacinamide (ไนอะซินาไมด์) นั่นเองค่ะ ส่วนผสมนี้ต้องเรียบกว่ามีคุณประโยชน์กับผิวมาก ๆ ทั้งช่วยบูสต์ผิวให้ชุ่มชื้น, กระชับรูขุมขน, ลดจุดด่างดำ, ลดรอยดำ รอยแดงจากสิว, ลดการระคายเคืองของผิว และช่วยปรับสมดุลผิว ให้ผิวแข็งแรง นั่นเองค่ะ

ในสมัยก่อนเค้าจะห้ามใช้กับตัว Vitamin C แต่ตอนนี้หลาย ๆ แบรนด์ปรับส่วนผสมให้สามารถใช้ร่วมกันได้แล้วน้าาา แต่ตัวที่ยังไม่แนะนำให้ใช้คู่กันคือตัวผลัดเซลล์ผิวค่ะ

ส่วนผสมที่ไม่ควรใช้ร่วมกัน : Vitamin B3 + AHA

Vitamin B5 (วิตามินบีห้า : Panthenol)

Vitamin B5 (วิตามินบีห้า)

วิตามิน B5 หรือที่รู้จักกันในชื่อ Penthenol มีคุณสมบัติหลัก ๆ คือการเติมความชุ่มชื้นให้กับผิว, กักเก็บความชุ่มชื้นที่ผิวไว้อย่างยาวนาน, ลดการระคายเคือง, ลดรอยแผลเป็น และลดรอยแดงจากสิวค่ะ ใครที่ผิวแห้ง ขาดน้ำ แนะนำสกินแคร์ที่มีส่วนผสมของวิตามิน B5 นี้เลย เลิศ!

ตัวนี้ไม่มีส่วนผสมที่ห้ามใช้คู่กันค่ะ สามารถใช้ได้กับสกินแคร์อื่น ๆ ได้อย่างดี และปลอดภัยเลย

Vitamin C (วิตามินซี : L-ascorbic acid)

Vitamin C (วิตามินซี)

ตัวนี้เรียกได้ว่าแทบจะเป็นส่วนผสมที่ฮิตที่สุดเลยค่ะ กับวิตามิน C หรือ L-ascorbic acid แต่เราจะคุ้นกันว่า Vit C, VC หรือ Vitamin C เลย ประโยชน์ของวิตามินซี กับผิวของเราก็คือช่วยให้ผิวกระจ่างใส, ลดเลือนจุดด่างดำ, ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ เพิ่มการส้รางคอลลาเจนให้กับผิว ช่วยให้ผิวไม่เหี่ยว และป้องกันริ้วรอยก่อนวัยด้วยค่ะ

แต่ตัววิตามินซี จะมีข้อห้ามในการใช้ร่วมกับส่วนผสมอื่น ๆ ค่อนข้างเยอะ เพราะเค้าแอบมีฤทธิ์เป็นกรดค่ะ ใครที่ใช้วิตามินซีอย่าลืมทากันแดดสองข้อนิ้วแบบพูน ๆ สม่ำเสมอ ห้ามลืมเด็ดขาดเลยน้าาาา

ส่วนผสมที่ไม่ควรใช้ร่วมกัน :

Vitamin C + AHA

Vitamin C + Benzoyl Peroxide

Vitamin C + Niacinamide

Vitamin C + Retinol

Vitamin E (วิตามินอี : Tocopherol)

Vitamin E (วิตามินอี)

วิตามิน E หรือเรียกอีกชื่อว่า Tocopherol เป็นวิตามินที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระค่ะ ส่วนผสมนี้เค้าจะช่วยฟื้นฟูผิวให้แข็งเแรง, ช่วยให้รูขุมขนกระชับ, เติมความชุ่มชื้นให้กับผิว, ลดเลือนจุดด่างดำ และยังช่วยในการรักษาสิวด้วยค่ะ

วิตามิน E ไม่มีข้อห้ามในการใช้ สามารถใช้ร่วมกับส่วนผสมอื่น ๆ ได้เลยค่า

สรุป : วิตามินในสกินแคร์ ตัวไหน เหมาะกับผิวแบบไหน?

ส่วนตารางนี้ แอดมินได้นำสรุปวิตามินแต่ละตัวมาให้ค่ะ ว่าวิตามินอะไร ควรใช้กับสภาพผิวแบบไหน ใครที่มีปัญหาผิวแบบไหน สามารถเลือกใช้สกินแคร์ที่มีส่วนผสมของวิตามินต่าง ๆ ตามนี้ ได้เลยค่าาาาา และอย่าลืมเช็คด้วยน้า ว่าวิตามินตัวไหน ไม่ควรใช้กับส่วนผสมอะไร และอย่าลืมทากันแดดสองข้อนิ้วพูน ๆ ทุกวัน ห้ามลืม ห้ามขาด แม้จะไม่ได้ออกไปไหนก็ต้องทานะคะ ^^

BEAUTRIUM 'WHERE BEAUTY BECOMES MORE'

ความสวยได้มากกว่าที่เคยเจอ ที่ร้านบิวเทรี่ยม ทั้ง 16 สาขา และช่องทางออนไลน์ 

ผ่านเว็บไซต์ theBEAUTRIUM.com 

Line@ ที่ @Beautrium 

Inbox FB หรือ Instagram @thebeautrium

การันตีของแท้ 100% ของถูก ครบจบในที่เดียวต้อง BEAUTRIUM